วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ครบรอบ 60ปี สนูปปี้


ถ้าจะพูดถึงหนังที่มีเป็นสุนัขเป็นตัวเอกนั้น เชื่อว่าหลายคนก็อาจจะนึกถึงหนังคลาสสิคอย่างเบนจี้ หรือแลซซี่ แต่ถ้าเป็นการ์ตูนนั้น บางคนอาจนึกถึง สกูบี-ดู (Scooby-Doo) บางคนอาจนึกถึงการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง ไอ้เขี้ยวเงิน แต่การ์ตูนที่คลาสสิคขึ้นหิ้งอย่าง สนูปปี้ จะต้องติดอันดับต้นๆในใจใครหลายคนแน่นอนค่ะ

สนูปปี้ เป็นสุนัขพันธุ์บีเกิ้ล ซึ่งเป็นผลงานเขียนของ ชาลล์ เอ็ม ชูลส์ ออกตีพิมพ์ครั้งแรก วันที่ 4 ตุลาคม 1950 นับจากวันนั้นถึงวันนี้ การ์ตูนสนูปปี้ก็จะมีอายุครบ 60 ปี ในเดือนตุลาคมปีนี้ ถ้าเป็นคนจีนก็ต้องถือว่าฉลองแซยิด (ครบ 5 รอบ) และเพื่อเป็นการฉลองครบรอบวันเกิดปีที่ 60 ของสนูปปี้ ทีเอสแอลซึ่งเป็นบริษัทขายเพชรชื่อดังของฮ่องกง ได้จัดทำ สนูปปี้เพชรขึ้นมา สูงขนาด 5.5 นิ้ว ประกอบไปด้วยเพชรจำนวน 9,917 เม็ด น้ำหนักรวมทั้งหมด 207กระรัต และใช้ทับทิมจำนวน 415 เม็ด โดยใช้เวลาทำประมาณ 8 เดือน และถ้าเศรษฐีคนใดเป็นแฟนตัวจริงของสนูปปี้ อยากได้สนูปปี้เพชรตัวนี้มาครอบครอง ทางบริษัท ทีเอสแอล เค้าตั้งราคาไว้เบาะๆค่ะ 426,000 USD หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 13ล้านบาทเท่านั้นเอง……. หุหุ เห็นราคาแล้ว กลับไปนอนกอดหมอนสนูปปี้เหมือนเดิมดีกว่า



วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แหวนแต่งงานน่ารักๆ



เมื่อพูดถึงแหวนแต่งงาน แน่นอนว่าหลายคนอาจนึกถึง แหวนทอง แหวนทองคำขาวกลมเกลี้ยง แบบเรียบหรูสวยงาม หรือหลายคนอาจนึกถึงแหวนเพชรอลังการงานสร้าง ที่มีเพชรเม็ดเบ้งน้ำหนักหลายกระรัตประดับอยู่บนแหวน หรือแหวนเพชรที่มีเพชรรายล้อมอยู่รอบวงซึ่งสื่อถึงความรักที่มีให้กันอันเป็นนิรันดร์ของคู่บ่าวสาว แต่ก็มีอีกหลายคู่ที่ไม่ได้จำกัดความหมายของคำว่าแหวนแต่งงานไว้แค่สิ่งของที่มอบให้กันในวันแต่งงานและแสดงถึงความเป็นเจ้าของในกันและกัน ยังมีคู่บ่าวสาวที่ไม่ได้จำกัดรูปแบบของแหวนแต่งงานแค่แหวนเพชรสวยๆ ราคาแพงสักวง และนำเอาราคาค่างวดของแหวนเพชรมาเทียบกับความรักที่มีให้แก่กันและกัน

เกริ่นมาซะยืดยาวเลย ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่วันนี้อยากจะนำเสนอแหวนแต่งงานน่ารักๆของคู่รักคู่หนึ่งที่กำลังจะแต่งงานกัน และเจ้าสาวได้มอบแหวนแต่งงานสุดพิเศษให้แก่เจ้าบ่าวเป็น แหวนยูเอสบี (USB Wedding Ring)…… หลายคนสงสัยว่ามีด้วยหรอ และใช้ได้จริงไม๊ เวลาใช้งานจะทำอย่างไร …….. ไม่ต้องสงสัยคะ แหวนแต่งงานนี้มีรูปทรงเหมือน Flash Drive เท่านั้นค่ะ แต่ว่าใช้งานด้านการเก็บข้อมูลไม่ได้จริงค่ะ

เจ้าของแหวนแต่งงานวงนี้ คือ Ray Arifianto โปรแกรมเมอร์ นักพัฒนาเกมแพลตฟอร์ม Xbox ของ Microsoft. และเจ้าของไอเดียกิ๋บเก๋ของแหวนแต่งงานวงนี้คือคู่หมั้นสาวของเขาเองค่ะที่ลงทุนทำแหวนทองคำแกะลาย USB Flash Drive และใช้เป็นแหวนแต่งงานของทั้งคู่ ซึ่งนายเรย์ชอบมันมาก และได้เขียนว่า ส่วนที่ดีที่สุดของแหวนแต่งงานวงนี้คือข้อความที่สลักอยู่บนแหวนว่า “For a lifetime of memories”

เห็นไม๊คะ แหวนที่มีคอนเซปป์น่ารักๆแบบนี้ ก็เป็นแหวนแต่งงานที่มีคุณค่า มีความหมายมากมายในสายตาคู่ของเราได้ อาจจะไม่ได้มีราคาสูง อาจจะไม่ได้สวยงาม แต่แหวนวงนี้เต็มไปด้วยความเข้าใจ มีความหมาย และสูงค่า ซึ่งจะประทับอยู่ในใจของคนที่เรารักตลอดไปแน่นอนคะ



วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เรื่องของเพชร



คุยเรื่องหนักหนัก เรื่องวิชาการกันมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้เปลี่ยนมาคุยเรื่องเบาเบาเกี่ยวกับเพชรกันบ้างนะคะ วันนี้ลองรวบรวมของฮิปฮิปที่นำเพชรมาประดับมาให้ดูกันพอหอมปากหอมคอนะคะ เริ่มที่ชิ้นแรกกันเลยนะคะ เป็นลิปสติกของเกอแลงค่ะ (Guerlain) โดยได้นำลิปสติกมาฝังเพชร และออกจำหน่ายชื่อ Kiss Kiss Gold & Diamond ซึ่งทำจากทองคำ 18 K ฝังเพชร 199 เม็ด น้ำหนักรวม 2.2 กระรัต ส่วนราคาก็เบาะๆค่ะ แค่ 62,000 USD เท่านั้นค่ะ

ส่วนชิ้นที่สองนั้นเป็นเข็มขัดของกุชชี่ค่ะ ซึ่งมีเศรษฐีผู้ไม่ประสงค์ออกนามได้ว่าจ้างให้ดีไซน์เนอร์ Stuart Hughes ทำการดัดแปลงเข็มขัด ให้เป็นเข็มขัดฝังเพชรสุดหรู โดยหัวเข็มขัดนั้นทำจาก Platinum และฝังเพชรน้ำหนักรวม 30 กระรัต ส่วนสนนราคาก็เบาะๆแค่ 249,000 USD เท่านั้นเอง

ชิ้นถัดมาคือรองเท้าส้นสูงทำด้วย Platinum ฝังเพชร น้ำหนักรวม 595 กระรัต ดีไซน์โดย Stuart Weizman ซึ่งรองเท้าซินเดอเรลล่าคู่นี้ ราคาประมาณ 2,00,000 USD (สงสัยว่า ถ้าทำหายข้างนึงเหมือนซินเดอเรลล่า คงนั่งน้ำตาร่วงตลอดปีแน่ๆ)

ส่วนชิ้นสุดท้ายนี่ถือเป็นที่สุดของที่สุดเลย ไม่ใกล้ไม่ไกลเลย อยู่บ้านเรานี่เอง เมื่อบริษัท ไปรณีย์ไทย จำกัด (ปณท) จัดสร้างแสตมป์ฝังเพชรดวงแรกของโลก ประดับเพชร 12 เม็ด หนัก 1.2 กะรัต เนื่องในวโรกาสมหามงคลครบรอบ 60 ปีราชาภิเษกสมรสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นับเป็นแสตมป์ดวงแรกของโลกที่นำเพชรมาประดับ และยังจัดทำเพียงชุดเดียวเท่านั้น เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ในนามของคนไทยทั้งประเทศ และนำมาโชว์ภายในงานแสดงตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชีย เห็นแล้วก็รู้สึกเป็นปลี้มมากที่สุดเลยค่ะ




วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การเลือกซื้อแหวนเพชร ตอนที่ 2.....


สวัสดีค่ะหายหน้าหายตาไปหลายวันเลย ในที่สุดก็มีเวลากลับมาต่อเรื่องการเลือกซื้อแหวนเพชรกันแล้วนะคะ ก่อนจะข้ามไปสู่ขั้นตอนที่ 2 ในการเลือกซื้อแหวนเพชร เราอยากให้คุณพิจารณาถึงสิ่งที่มีผลต่อดีไซน์ของแหวนเพชรคือ การฝังเพชร (Ring Setting) และรูปทรงเพชร (Diamond Shape) ซึ่งตอนที่แล้วเราพูดถึงเรื่องของการฝังเพชร วันนี้เราจะมาต่อกันในเรื่องของรูปทรงของเพชร เพราะรูปแบบรูปทรงของเพชรมีมากมายหลายรูปแบบ Lamour Diamond (ลามูร์ไดมอนด์) จึงขอหยิบยกรูปทรงที่เป็นนิยมในปัจจุบัน เพื่อเป็นแนวทางก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อเพชร เพื่อให้ได้รูปทรงที่ตรงใจท่านมากที่สุดค่ะ


เพชรทรงกลม ( Round Brilliant Cut )

เพชรทรงกลมเป็นทรงที่เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมกันมากที่สุด และได้รับความนิยมทุกยุคทุกสมัย ด้วยทรงกลมที่แทนความต่อเนื่องอันนิรันดร์ เพชรทรงกลมจึงเป็นสัญลักษณ์ของแหวนหมั้น แหวนแต่งงาน การเจียระไนแบบนี้ยังสามารถช่วยซ่อน ตำหนิเล็กน้อย ได้มากกว่า รูปทรงแบบอื่นๆ และกระจายแสงได้ดีที่สุด เพชรจะถูกเจียระไนให้มีเหลี่ยม 58 เหลี่ยม ช่วยให้แสงสามารถตกกระทบส่วนล่าง แล้วกระจายกลับสู่ส่วนบน ไม่ว่าจะนำเพชรทรงกลมมาฝังบนตัวเรือนแบบเรียบ ๆ เช่นการฝังแบบ 6 หนามเตย หรือนำไปขึ้นตัวเรือนที่ได้รับการออกแบบซับซ้อน เพชรก็เปล่งประกายสวยงาม ในปัจจุบันนิยมเพชรทรงกลมแบบเหลี่ยมเกสร ( Round Brilliant Cut ) สาเหตุหนึ่งทำให้เพชรกลมเหลี่ยมเกสรเป็นที่นิยมมากที่สุดในบรรดารูปทรงเพชรทุกแบบ เนื่องจากเป็นเพชรที่เป็นแบบมาตรฐาน ซื้อขายง่าย และความเรียบง่ายของแบบทรงกลมก็เป็นสาเหตุหนึ่งให้คนตัดสินใจซื้อ เพราะใช้ได้หลายโอกาสและจัดเข้าชุดกับเครื่องประดับกายต่าง ๆ ได้ง่ายกว่ารูปทรงอื่น ๆ

เพชรรูปไข่ (Oval Cut)

การเจียระไนอัญมณีทรงรูปไข่ แต่เดิมนั้นนิยมใช้กับอัญมณีประเภทพลอยไพลินและทับทิม เนื่องจากเนื้อพลอยตัดง่ายกว่าเพชร ต่อมาเทคนิคการเจียระไนได้รับการพัฒนาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จึงเริ่มมีการเจียระไนเพชรในรูปไข่ ซึ่งสามารถเจียระไนได้ถึง 58 เหลี่ยม เพชรรูปไข่เป็นที่นิยมมากสำหรับแหวนครบรอบแต่งงาน (Anniversary Ring ) ลักษณะของแหวนครบรอบแต่งงานนั้นจะเป็นแหวนเพชรสามเม็ด โดยที่เพชรทั้งสามเม็ดนั้นมักมีขนาดที่ไม่ต่างกันมากนัก หรือเท่าเสมอ เพื่อแสดงถึงความรักที่มั่นคง สม่ำเสมอแม้เวลาจะผ่านไปของคู่รัก


เพชรรูปหยดน้ำ (Pear Cut)

เพชรรูปหยดน้ำ หรือแพรเชฟ เป็นเพชรที่ได้มาจากรูปทรงของธรรมชาติ ทั้งหยดน้ำและชื่อผลไม้ตามชื่อภาษาอังกฤษ เป็นเพชรอีกทรงที่นิยม เพราะยังจัดเป็นรูปทรงที่เรียบ ๆ เข้ากับตัวเรือนได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับชนิดใด ทั้งแหวน ต่างหู และจี้ จึงทำให้เป็นรูปทรงที่ได้รับความนิยมในอันดับต้น ๆ เพชรรูปหยดน้ำจัดเป็นรูปทรงที่เจียระไนซับซ้อนที่สุดรูปทรงหนึ่ง ประกอบไปด้วยเหลี่ยมเพชร 58 เหลี่ยม ซึ่งเป็นการเจียระไนที่ทำให้เพชรส่องประกายได้ค่อนข้างดีทรงหนึ่ง นอกจากนี้รูปทรงหยดน้ำช่วยทำให้เพชรมองดูแล้วใหญ่กว่าน้ำหนักที่แท้จริง เพราะรูปทรงหยดน้ำนี้จะช่วยให้เพชรดูแล้วใหญ่และยาวกว่ารูปทรงกลม เมื่อเทียบต่อน้ำหนักเพชรที่เท่าๆ กัน

เพชรทรงเอมเมอรัลด์ (Emerald Cut)

เพชรทรงเอมเมอรัลด์ โดยได้รับแรงบันดาลใจ จากการเจียระไนมรกต รูปสี่เหลี่ยมมรกต เป็นรูปลักษณ์ของเพชรที่เด่นอีกรูปแบบหนึ่ง สิ่งที่เน้นคือความงดงามอันโปร่งใสของเนื้อเพชร กรอบเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มุมทั้งสี่ ด้านซ้ายและด้านขวา มีความสมมาตรเพชร และเป็นที่นิยมอย่างมากในสมัยก่อน ในปัจจุบันแม้ว่าเพชรรูปทรงสี่เหลี่ยมมรกตนี้จะไม่นิยมเท่ากับในสมัยก่อน แต่เพชรรูปทรงนี้ยังคงความคลาสสิคและมีคุณค่าในทุกยุคทุกสมัย

เพชรรูปมาร์คีส์ (Marquise Cut)

เพชรรูปทรงมาร์คีส์ เป็นเพชรที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการเจียระไนเป็นพิเศษ ราคาค่าแรงเลยสูงเป็นอันดับสองรองจากเพชรรูปหัวใจ และเพราะความแปลกของรูปทรงมาคีส์ทำให้เป็นทรงเพชรที่ติดอันดับความนิยมเสมอมา แม้จะไม่อยู่ในอันดับต้นแต่ก็มีผู้นิยมไม่น้อย เพราะความสวยงามของเพชรมาคีส์ สามารถโชว์ความงามได้ในตัวเพชรแบบเดี่ยวและการจัดวางเป็นรูปทรงต่าง ๆ ทั้งกลีบดอกไม้ ใบไม้ รูปสัตว์ อาทิ แมลงปอ เป็นต้น ได้อย่างลงตัว สำหรับใครที่ชอบเพชรรูปทรงนี้ แนะนำให้เลือกตัวเรือนที่มีการบังเหลี่ยมมุมบนปลายทั้งสอง จะสามารถป้องกันการกะเทาะของมุมเพชรได้ ในขณะเดียวกันก็ยังเปิดโอกาสให้แสงส่องเข้าถึงตัวเพชรได้มาก เพื่อเสริมให้ประกายเพชรดูโดดเด่น


เพชรทรง คัชชัน (Cushion Cut)

เพชรทรง “cushion” อันมีรูปทรงสลับซับซ้อน และเป็นรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว กล่าวคือ มีรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หน้าเพชรโค้ง และมุมกลม ทำให้เกิดประกายแวววาวนุ่มนวล และสง่างาม จึงเป็นทรงที่มีแนวโน้มจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วย เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่เลือกหาสิ่งที่แปลกใหม่และแตกต่างมากยิ่งขึ้น


เพชรทรง “แอชเชอร์” (Asscher Cut)


การเจียระไนเพชรทรงนี้ เป็นรูปแบบการเจียระไนที่มีมาก่อนการเจียระไนทรงเอมเมอรัลด์ ซึ่งเป็นการเจียระไนที่คล้ายกันทรงเอ็มเมอรัลด์ ยกเว้นแต่ว่าจะเป็นทรงจัตุรัสเท่านั้น ไม่เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยเพชรทรง Asscher จะมียอดเพชรที่กว้าง เหลี่ยมยาวลดหลั่นกัน มีด้านเท่ากันและมีมุมตัด เป็นอีกรูปทรงหนึ่งที่มีความคลาสสิค ความสะอาด และสีของเพชร เป็นสิ่งสำคัญของเพชรทรงแอชเชอร์นี้ ซี่งการมีหน้าแบนใหญ่จะทำให้เรื่องความสะอาดของเพชรถูกสังเกตได้ง่าย ทรงแอชเชอร์คัทแบบดั้งเดิม จะมีทั้งหมด 58 เหลี่ยม โดยจะเหมือนกับเพชรทรงเอ็มเมอรัลด์แบบจัตุรัสสมัยใหม่ แต่ในแบบรอยัลแอชเชอร์ (Royal Asscher) สมัยใหม่จะมีทั้งหมด 74 เหลี่ยม โดยส่วนด้านบนของเพชรจะมีการเจียรไนเป็นขั้นเล็กๆ มากขึ้น ในขณะที่ด้านล่างของเพชร จะมีการเจียรไนเหลี่ยมให้ยาวและใหญ่ขึ้น และมีก้นเพชรที่เป็นแบบเปิด การเจียรไนแบบนี้จะช่วยทำให้เพชรมีประกายแสงมากขึ้น และจะดึงสายตาให้มองไปตรงกลางตามความลึกของเพชรด้วย ในขณะที่จุดกลางของเพชรมีประกายระยิบระยับนั้น มุมของเพชรจะเป็นตัวแสดงสีที่แท้จริงของเพชรเม็ดนั้น

เพชรทรงหัวใจ (Heart Cut)

เป็นรูปทรงที่มีค่าเจียระไนสูงกว่าเพชรในกลุ่มแฟนซีมาตรฐานทั่วไป เนื่องจากการคัดสรรให้ได้มาซึ่งเพชรทรงหัวใจที่มีสมมาตรที่ดี ต้องใช้เวลาและความอดทน เพราะการเบี้ยวของเส้นขอบเพชรเพียงเล็กน้อย จะแสดงออกให้เห็นได้ชัดบนตัวเรือนเรียบเกลี้ยงของแหวนหมั้น เพชรทรงหัวใจที่ดีควารมีสัดส่วนกว้าง : ยาวเป็น 1: 1 รูปทรงหัวใจแสดงความน่ารัก และอ่อนโยนอยู่ในตัว จึงขอแนะนำให้เลือกตัวเรือนที่เรียบ ดูสะอาดตา เพื่อแสดงความสง่าที่น่ารักของเพชรเม็ดที่คุณเลือกสรรมาอย่างดี ในปัจจุบันเพชรรูปหัวใจจะมีราคาสูงกว่าการเจียระไนแบบทรงเพชรทรงกลมแบบเหลี่ยมเกสรหากเทียบในสัดส่วนน้ำหนักที่เท่ากัน ทั้งนี้เนื่องมาจากการเจียระไนรูปทรงหัวใจมีน้ำหนักสูญเสียระหว่างการเจียระไนที่มากกว่า และเพชรรูปทรงหัวใจนั้นหาซื้อได้ยากกว่ารูปทรงกลมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพชรรูปทรงหัวใจที่มีความสมมาตรสวยงาม และเนื่องจากมีความยากในการเจียระไนรูปหัวใจ เพชรรูปหัวใจส่วนมากจึงมีขนาดใหญ่กว่า 1 กะรัต



เพชรรูปทรงพริ้นเซส (Princess Cut)

รูปแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสเป็นทรงที่ส่องประกายไฟได้ดีเกือบจะเท่ากับทรงกลม มีเหลี่ยมเพชรที่มองแล้วคม และความเรียบของเส้นขอบที่สามารถเชื่อมต่อกับตัวเรือนได้สนิท ทำให้เพชรทรงพริ้นเซสมักถูกเลือกเป็นแหวนหมั้นให้ฝ่ายชาย เพชรทรงพริ้นเซสที่ได้รับการเจียระไนที่ดี จะสามารถสะท้อนแสงได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยทั่วไปการใช้ตัวเรือนแบบหนามเตย 4 มุม จะเป็นที่นิยมสำหรับเพชรรูปทรงนี้ เพื่อช่วยป้องกันมุมของเพชรทั้ง 4 ด้าน

เพชรรูปทรงเรเดียน (Radiant Cut)

เพชรทรงเรเดียน มีลัษณะการเจียระไนคล้ายกับทรงปริ้นเซสที่ใช้เหลี่ยมในการทำให้เกิดการเล่นไฟและส่องประกายระยิบระยับแบบทรงกลม แต่จะมีเหลี่ยมมากกว่ารูปทรงปริ้นเซส องค์ประกอบที่ทำให้เพชรทรงเรเดียนแตกต่างจากเพชรทรงปริ้นเซสอีกอย่างก็คือ มุมทั้ง 4 ที่ถูกตัด ซึ่งการตัดมุมนี้ช่วยทำให้เพชรเกิดการแตกหักสูญเสียได้ยากขึ้นอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามรูปลักษณ์โดยรวมของเพชรรูปทรงเรเดียนจะมีความคล้ายกับเพชรทรงเอ็มเมอร์รัลด์ และทรงแอชเชอร์ เนื่องจากจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือผืนผ้าก็ได้ และมีมุมทั้ง 4 ที่ถูกตัด