วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Lamour Diamond เปิดร้านใหม่ 24 ธค 53 นี้




Lamour Diamond เปิดร้านใหม่ Amphawan Jewelry
ในวันศุกร์ที่ 24 ธค นี้ บริเวณ ชั้นสอง โครงการ The City Viva สาทร

ช้อปสินค้าวันงานเปิดตัว ได้รับส่วนลดพิเศษสูงสุด 70% เมื่อซื้อเครื่องประดับเพชร
พร้อมทั้งบริการดูไพ่ยิปซีฟรี จาก อ. เดวิด บุญทวี
และลุ้นรับรางวัลใหญ่ จี้เพชร ทองขาว 18 K มูลค่าประมาณ 11,900บาท

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 089.788.2117

ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่
www.facebook.com/lamourdiamonds
www.lamourdiamond.com

วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

5 ความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับเพชร




ความเชื่อที่ 1 : เพชรที่มีสีขาวใสหรือเพชรที่มีความบริสุทธิ์มาก จะทำให้เพชรมีประกายระยิบระยับ เล่นไฟแลดูสวยงามมากยิ่งขึ้น

ความเป็นจริง : สีของเพชร (Color) และความบริสุทธิ์ของเพชร (Clarity) มีความสำคัญกับประกายของเพชรน้อยกว่าการเจียระไนเพราะถ้าเพชรถูกเจียระไน ตื้นไปหรือลึกเกินไป จะทำให้สะท้อนแสงหรือเล่นไฟน้อย แต่ถ้าเพชรถูกเจียระไนแบบมีสัดส่วนที่เหมาะสม จะทำให้แสงนั้นสะท้อนขึ้นทางด้านบนของเพชร และทำให้เพชรมีประกายระยิบระยับมากขึ้น
ส่วนสีของเพชรหรือที่บ้านเราเรียกว่าน้ำ นั้นเป็นแค่ตัวบ่งบอกสีของเพชรเท่านั้นเองว่าเพชรเม็ดนั้นมีสีขาวใส เพชรเม็ดนั้นมีสีขาวอมเหลือง
ส่วนความบริสุทธิ์ของเพชร นั้นคือสิ่งที่บอกว่าเพชรเม็ดนั้นสมบูรณ์แบบแค่ไหน มีตำหนิมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง

อ่านต่อ......คลิ๊กที่นี่

วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เพชร เสริมความกล้า เพิ่มความมั่นใจ



คำว่า เพชร ในภาษาไทย มาจาก वज्र (วชฺร) ในภาษาสันสกฤต หมายถึง สายฟ้า ส่วนในภาษาอังกฤษ “diamond” มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกโบราณ αδάμας (adamas) ซึ่งมีความหมายว่า ไม่มีใครชนะได้ ภายหลังได้แผลงเป็น adamant, diamaunt, diamant และ diamond ในที่สุด .............

*อ่านต่อ เรื่องราวเกี่ยวกับเพชร ช่วยเสริมความกล้า

หรือต้องการอ่านบทความดีดีเกี่ยวกับเพชร และเครื่องประดับเพชร อาทิ แหวนเพชร, ต่างหูเพชร, กำไลข้อมือเพชร
กรุณาคลิ๊ก

วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553

การดูข้อมูลเพชรบนไอโฟน....




ถ้าพูดถึงเรื่องการซื้อเพชรในยุคนี้นั้น สะดวกสบายกว่าแต่ก่อนมาก ร้านค้าและช่องทางการจำหน่ายเพชรนั้นมีมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญสำหรับผู้บริโภคนั้น แน่นอนนั่นคือเรื่องข้อมูลความรู้เกี่ยวกับเพชรและการเลือกซื้อเพชรบนอินเตอร์เนตที่มีให้เลือกดูอย่างมากมายนั่นเอง โดยเฉพาะเมื่อเครื่อง SmartPhone เติบโตขึ้น การดูข้อมูลการเลือกซื้อเพชรทางอินเตอร์เนตบนจอคอมพ์ หรือโน้ตบุ๊คอาจดูล้าสมัยไปแล้ว เดี๋ยวนี้เค้าพกคู่มือการดูเพชร แหวนเพชรบนมือถือกันแล้ว

เมื่อบริษัท Vision Promotional Group ได้พัฒนา Application สำหรับการเลือกซื้อเพชรบนเครื่อง Iphone โดยได้บรรจุข้อมูลในการเลือกซื้อเพชรไว้ใน Iphone ซึ่งจะมีข้อมูลเรื่องเพชรครบ อย่าง 4C (Carat, Clarity, Color, Cutting) ที่หลายคนคุ้นเคยนั่นเอง อย่างเรื่อง Color (สี) ของเพชรนั้น ในโปรแกรมเค้าก็ใส่ตัวอย่างสีของเพชรไว้ ซึ่งคุณสามารถเลือกดูสีเพชรได้ครบตั้งแต่ D-Z ส่วนเรื่อง Cutting ของเพชรนั้น โปรแกรมก็มีรูปประกอบลักษณะของเหลี่ยมเพชร และบอกว่ารูปทรงที่ดีควรจะมีลักษณะอย่างไร เพชรรูปทรงไหนเรียกว่า Too Deep หรือ Too Shallow หรือเหลี่ยมไหน ทรงไหนที่พอเหมาะพอดี ส่วนเรื่องที่ 3 คือเรื่องของ Clarity ของเพชรนั้น ก็จะมีข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของตำหนิเพชรบอกไว้อย่างชัดเจน สุดท้ายคือเรื่อง Carat ของเพชร ก็จะพูดถึงรูปตัวอย่างขนาดของเพชรเมื่อเทียบกับนิ้วเราให้ดูเป็นตัวอย่าง

แอบกระซิบนิดนึงว่าตัวเองยังไม่มีโอกาสได้ใช้ ข้อความที่นำมาเล่าสู่กันฟังก็ไปดูเวปเมืองนอกเค้าวิจารณ์มา แต่ถ้าใครสนใจ ก็สามารถหาซื้อได้ใน iTune ชื่อเต็มๆว่า The 4’C Interactive diamond buying guide ส่วนเรื่องราคาก็ประมาณ 1.99 เหรียญค่ะ ถ้าใครลองโหลดมาใช้แล้วจะมารีวิวให้ฟังก็ยินดีนะคะ เผื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่นที่เค้าสนใจค่ะ


www.lamourdiamond.com


credit : appsafari, Vision Promotional Group


วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ครบรอบ 60ปี สนูปปี้


ถ้าจะพูดถึงหนังที่มีเป็นสุนัขเป็นตัวเอกนั้น เชื่อว่าหลายคนก็อาจจะนึกถึงหนังคลาสสิคอย่างเบนจี้ หรือแลซซี่ แต่ถ้าเป็นการ์ตูนนั้น บางคนอาจนึกถึง สกูบี-ดู (Scooby-Doo) บางคนอาจนึกถึงการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง ไอ้เขี้ยวเงิน แต่การ์ตูนที่คลาสสิคขึ้นหิ้งอย่าง สนูปปี้ จะต้องติดอันดับต้นๆในใจใครหลายคนแน่นอนค่ะ

สนูปปี้ เป็นสุนัขพันธุ์บีเกิ้ล ซึ่งเป็นผลงานเขียนของ ชาลล์ เอ็ม ชูลส์ ออกตีพิมพ์ครั้งแรก วันที่ 4 ตุลาคม 1950 นับจากวันนั้นถึงวันนี้ การ์ตูนสนูปปี้ก็จะมีอายุครบ 60 ปี ในเดือนตุลาคมปีนี้ ถ้าเป็นคนจีนก็ต้องถือว่าฉลองแซยิด (ครบ 5 รอบ) และเพื่อเป็นการฉลองครบรอบวันเกิดปีที่ 60 ของสนูปปี้ ทีเอสแอลซึ่งเป็นบริษัทขายเพชรชื่อดังของฮ่องกง ได้จัดทำ สนูปปี้เพชรขึ้นมา สูงขนาด 5.5 นิ้ว ประกอบไปด้วยเพชรจำนวน 9,917 เม็ด น้ำหนักรวมทั้งหมด 207กระรัต และใช้ทับทิมจำนวน 415 เม็ด โดยใช้เวลาทำประมาณ 8 เดือน และถ้าเศรษฐีคนใดเป็นแฟนตัวจริงของสนูปปี้ อยากได้สนูปปี้เพชรตัวนี้มาครอบครอง ทางบริษัท ทีเอสแอล เค้าตั้งราคาไว้เบาะๆค่ะ 426,000 USD หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 13ล้านบาทเท่านั้นเอง……. หุหุ เห็นราคาแล้ว กลับไปนอนกอดหมอนสนูปปี้เหมือนเดิมดีกว่า



วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แหวนแต่งงานน่ารักๆ



เมื่อพูดถึงแหวนแต่งงาน แน่นอนว่าหลายคนอาจนึกถึง แหวนทอง แหวนทองคำขาวกลมเกลี้ยง แบบเรียบหรูสวยงาม หรือหลายคนอาจนึกถึงแหวนเพชรอลังการงานสร้าง ที่มีเพชรเม็ดเบ้งน้ำหนักหลายกระรัตประดับอยู่บนแหวน หรือแหวนเพชรที่มีเพชรรายล้อมอยู่รอบวงซึ่งสื่อถึงความรักที่มีให้กันอันเป็นนิรันดร์ของคู่บ่าวสาว แต่ก็มีอีกหลายคู่ที่ไม่ได้จำกัดความหมายของคำว่าแหวนแต่งงานไว้แค่สิ่งของที่มอบให้กันในวันแต่งงานและแสดงถึงความเป็นเจ้าของในกันและกัน ยังมีคู่บ่าวสาวที่ไม่ได้จำกัดรูปแบบของแหวนแต่งงานแค่แหวนเพชรสวยๆ ราคาแพงสักวง และนำเอาราคาค่างวดของแหวนเพชรมาเทียบกับความรักที่มีให้แก่กันและกัน

เกริ่นมาซะยืดยาวเลย ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่วันนี้อยากจะนำเสนอแหวนแต่งงานน่ารักๆของคู่รักคู่หนึ่งที่กำลังจะแต่งงานกัน และเจ้าสาวได้มอบแหวนแต่งงานสุดพิเศษให้แก่เจ้าบ่าวเป็น แหวนยูเอสบี (USB Wedding Ring)…… หลายคนสงสัยว่ามีด้วยหรอ และใช้ได้จริงไม๊ เวลาใช้งานจะทำอย่างไร …….. ไม่ต้องสงสัยคะ แหวนแต่งงานนี้มีรูปทรงเหมือน Flash Drive เท่านั้นค่ะ แต่ว่าใช้งานด้านการเก็บข้อมูลไม่ได้จริงค่ะ

เจ้าของแหวนแต่งงานวงนี้ คือ Ray Arifianto โปรแกรมเมอร์ นักพัฒนาเกมแพลตฟอร์ม Xbox ของ Microsoft. และเจ้าของไอเดียกิ๋บเก๋ของแหวนแต่งงานวงนี้คือคู่หมั้นสาวของเขาเองค่ะที่ลงทุนทำแหวนทองคำแกะลาย USB Flash Drive และใช้เป็นแหวนแต่งงานของทั้งคู่ ซึ่งนายเรย์ชอบมันมาก และได้เขียนว่า ส่วนที่ดีที่สุดของแหวนแต่งงานวงนี้คือข้อความที่สลักอยู่บนแหวนว่า “For a lifetime of memories”

เห็นไม๊คะ แหวนที่มีคอนเซปป์น่ารักๆแบบนี้ ก็เป็นแหวนแต่งงานที่มีคุณค่า มีความหมายมากมายในสายตาคู่ของเราได้ อาจจะไม่ได้มีราคาสูง อาจจะไม่ได้สวยงาม แต่แหวนวงนี้เต็มไปด้วยความเข้าใจ มีความหมาย และสูงค่า ซึ่งจะประทับอยู่ในใจของคนที่เรารักตลอดไปแน่นอนคะ



วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เรื่องของเพชร



คุยเรื่องหนักหนัก เรื่องวิชาการกันมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้เปลี่ยนมาคุยเรื่องเบาเบาเกี่ยวกับเพชรกันบ้างนะคะ วันนี้ลองรวบรวมของฮิปฮิปที่นำเพชรมาประดับมาให้ดูกันพอหอมปากหอมคอนะคะ เริ่มที่ชิ้นแรกกันเลยนะคะ เป็นลิปสติกของเกอแลงค่ะ (Guerlain) โดยได้นำลิปสติกมาฝังเพชร และออกจำหน่ายชื่อ Kiss Kiss Gold & Diamond ซึ่งทำจากทองคำ 18 K ฝังเพชร 199 เม็ด น้ำหนักรวม 2.2 กระรัต ส่วนราคาก็เบาะๆค่ะ แค่ 62,000 USD เท่านั้นค่ะ

ส่วนชิ้นที่สองนั้นเป็นเข็มขัดของกุชชี่ค่ะ ซึ่งมีเศรษฐีผู้ไม่ประสงค์ออกนามได้ว่าจ้างให้ดีไซน์เนอร์ Stuart Hughes ทำการดัดแปลงเข็มขัด ให้เป็นเข็มขัดฝังเพชรสุดหรู โดยหัวเข็มขัดนั้นทำจาก Platinum และฝังเพชรน้ำหนักรวม 30 กระรัต ส่วนสนนราคาก็เบาะๆแค่ 249,000 USD เท่านั้นเอง

ชิ้นถัดมาคือรองเท้าส้นสูงทำด้วย Platinum ฝังเพชร น้ำหนักรวม 595 กระรัต ดีไซน์โดย Stuart Weizman ซึ่งรองเท้าซินเดอเรลล่าคู่นี้ ราคาประมาณ 2,00,000 USD (สงสัยว่า ถ้าทำหายข้างนึงเหมือนซินเดอเรลล่า คงนั่งน้ำตาร่วงตลอดปีแน่ๆ)

ส่วนชิ้นสุดท้ายนี่ถือเป็นที่สุดของที่สุดเลย ไม่ใกล้ไม่ไกลเลย อยู่บ้านเรานี่เอง เมื่อบริษัท ไปรณีย์ไทย จำกัด (ปณท) จัดสร้างแสตมป์ฝังเพชรดวงแรกของโลก ประดับเพชร 12 เม็ด หนัก 1.2 กะรัต เนื่องในวโรกาสมหามงคลครบรอบ 60 ปีราชาภิเษกสมรสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นับเป็นแสตมป์ดวงแรกของโลกที่นำเพชรมาประดับ และยังจัดทำเพียงชุดเดียวเท่านั้น เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ในนามของคนไทยทั้งประเทศ และนำมาโชว์ภายในงานแสดงตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชีย เห็นแล้วก็รู้สึกเป็นปลี้มมากที่สุดเลยค่ะ




วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การเลือกซื้อแหวนเพชร ตอนที่ 2.....


สวัสดีค่ะหายหน้าหายตาไปหลายวันเลย ในที่สุดก็มีเวลากลับมาต่อเรื่องการเลือกซื้อแหวนเพชรกันแล้วนะคะ ก่อนจะข้ามไปสู่ขั้นตอนที่ 2 ในการเลือกซื้อแหวนเพชร เราอยากให้คุณพิจารณาถึงสิ่งที่มีผลต่อดีไซน์ของแหวนเพชรคือ การฝังเพชร (Ring Setting) และรูปทรงเพชร (Diamond Shape) ซึ่งตอนที่แล้วเราพูดถึงเรื่องของการฝังเพชร วันนี้เราจะมาต่อกันในเรื่องของรูปทรงของเพชร เพราะรูปแบบรูปทรงของเพชรมีมากมายหลายรูปแบบ Lamour Diamond (ลามูร์ไดมอนด์) จึงขอหยิบยกรูปทรงที่เป็นนิยมในปัจจุบัน เพื่อเป็นแนวทางก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อเพชร เพื่อให้ได้รูปทรงที่ตรงใจท่านมากที่สุดค่ะ


เพชรทรงกลม ( Round Brilliant Cut )

เพชรทรงกลมเป็นทรงที่เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมกันมากที่สุด และได้รับความนิยมทุกยุคทุกสมัย ด้วยทรงกลมที่แทนความต่อเนื่องอันนิรันดร์ เพชรทรงกลมจึงเป็นสัญลักษณ์ของแหวนหมั้น แหวนแต่งงาน การเจียระไนแบบนี้ยังสามารถช่วยซ่อน ตำหนิเล็กน้อย ได้มากกว่า รูปทรงแบบอื่นๆ และกระจายแสงได้ดีที่สุด เพชรจะถูกเจียระไนให้มีเหลี่ยม 58 เหลี่ยม ช่วยให้แสงสามารถตกกระทบส่วนล่าง แล้วกระจายกลับสู่ส่วนบน ไม่ว่าจะนำเพชรทรงกลมมาฝังบนตัวเรือนแบบเรียบ ๆ เช่นการฝังแบบ 6 หนามเตย หรือนำไปขึ้นตัวเรือนที่ได้รับการออกแบบซับซ้อน เพชรก็เปล่งประกายสวยงาม ในปัจจุบันนิยมเพชรทรงกลมแบบเหลี่ยมเกสร ( Round Brilliant Cut ) สาเหตุหนึ่งทำให้เพชรกลมเหลี่ยมเกสรเป็นที่นิยมมากที่สุดในบรรดารูปทรงเพชรทุกแบบ เนื่องจากเป็นเพชรที่เป็นแบบมาตรฐาน ซื้อขายง่าย และความเรียบง่ายของแบบทรงกลมก็เป็นสาเหตุหนึ่งให้คนตัดสินใจซื้อ เพราะใช้ได้หลายโอกาสและจัดเข้าชุดกับเครื่องประดับกายต่าง ๆ ได้ง่ายกว่ารูปทรงอื่น ๆ

เพชรรูปไข่ (Oval Cut)

การเจียระไนอัญมณีทรงรูปไข่ แต่เดิมนั้นนิยมใช้กับอัญมณีประเภทพลอยไพลินและทับทิม เนื่องจากเนื้อพลอยตัดง่ายกว่าเพชร ต่อมาเทคนิคการเจียระไนได้รับการพัฒนาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จึงเริ่มมีการเจียระไนเพชรในรูปไข่ ซึ่งสามารถเจียระไนได้ถึง 58 เหลี่ยม เพชรรูปไข่เป็นที่นิยมมากสำหรับแหวนครบรอบแต่งงาน (Anniversary Ring ) ลักษณะของแหวนครบรอบแต่งงานนั้นจะเป็นแหวนเพชรสามเม็ด โดยที่เพชรทั้งสามเม็ดนั้นมักมีขนาดที่ไม่ต่างกันมากนัก หรือเท่าเสมอ เพื่อแสดงถึงความรักที่มั่นคง สม่ำเสมอแม้เวลาจะผ่านไปของคู่รัก


เพชรรูปหยดน้ำ (Pear Cut)

เพชรรูปหยดน้ำ หรือแพรเชฟ เป็นเพชรที่ได้มาจากรูปทรงของธรรมชาติ ทั้งหยดน้ำและชื่อผลไม้ตามชื่อภาษาอังกฤษ เป็นเพชรอีกทรงที่นิยม เพราะยังจัดเป็นรูปทรงที่เรียบ ๆ เข้ากับตัวเรือนได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับชนิดใด ทั้งแหวน ต่างหู และจี้ จึงทำให้เป็นรูปทรงที่ได้รับความนิยมในอันดับต้น ๆ เพชรรูปหยดน้ำจัดเป็นรูปทรงที่เจียระไนซับซ้อนที่สุดรูปทรงหนึ่ง ประกอบไปด้วยเหลี่ยมเพชร 58 เหลี่ยม ซึ่งเป็นการเจียระไนที่ทำให้เพชรส่องประกายได้ค่อนข้างดีทรงหนึ่ง นอกจากนี้รูปทรงหยดน้ำช่วยทำให้เพชรมองดูแล้วใหญ่กว่าน้ำหนักที่แท้จริง เพราะรูปทรงหยดน้ำนี้จะช่วยให้เพชรดูแล้วใหญ่และยาวกว่ารูปทรงกลม เมื่อเทียบต่อน้ำหนักเพชรที่เท่าๆ กัน

เพชรทรงเอมเมอรัลด์ (Emerald Cut)

เพชรทรงเอมเมอรัลด์ โดยได้รับแรงบันดาลใจ จากการเจียระไนมรกต รูปสี่เหลี่ยมมรกต เป็นรูปลักษณ์ของเพชรที่เด่นอีกรูปแบบหนึ่ง สิ่งที่เน้นคือความงดงามอันโปร่งใสของเนื้อเพชร กรอบเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มุมทั้งสี่ ด้านซ้ายและด้านขวา มีความสมมาตรเพชร และเป็นที่นิยมอย่างมากในสมัยก่อน ในปัจจุบันแม้ว่าเพชรรูปทรงสี่เหลี่ยมมรกตนี้จะไม่นิยมเท่ากับในสมัยก่อน แต่เพชรรูปทรงนี้ยังคงความคลาสสิคและมีคุณค่าในทุกยุคทุกสมัย

เพชรรูปมาร์คีส์ (Marquise Cut)

เพชรรูปทรงมาร์คีส์ เป็นเพชรที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการเจียระไนเป็นพิเศษ ราคาค่าแรงเลยสูงเป็นอันดับสองรองจากเพชรรูปหัวใจ และเพราะความแปลกของรูปทรงมาคีส์ทำให้เป็นทรงเพชรที่ติดอันดับความนิยมเสมอมา แม้จะไม่อยู่ในอันดับต้นแต่ก็มีผู้นิยมไม่น้อย เพราะความสวยงามของเพชรมาคีส์ สามารถโชว์ความงามได้ในตัวเพชรแบบเดี่ยวและการจัดวางเป็นรูปทรงต่าง ๆ ทั้งกลีบดอกไม้ ใบไม้ รูปสัตว์ อาทิ แมลงปอ เป็นต้น ได้อย่างลงตัว สำหรับใครที่ชอบเพชรรูปทรงนี้ แนะนำให้เลือกตัวเรือนที่มีการบังเหลี่ยมมุมบนปลายทั้งสอง จะสามารถป้องกันการกะเทาะของมุมเพชรได้ ในขณะเดียวกันก็ยังเปิดโอกาสให้แสงส่องเข้าถึงตัวเพชรได้มาก เพื่อเสริมให้ประกายเพชรดูโดดเด่น


เพชรทรง คัชชัน (Cushion Cut)

เพชรทรง “cushion” อันมีรูปทรงสลับซับซ้อน และเป็นรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว กล่าวคือ มีรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หน้าเพชรโค้ง และมุมกลม ทำให้เกิดประกายแวววาวนุ่มนวล และสง่างาม จึงเป็นทรงที่มีแนวโน้มจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วย เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่เลือกหาสิ่งที่แปลกใหม่และแตกต่างมากยิ่งขึ้น


เพชรทรง “แอชเชอร์” (Asscher Cut)


การเจียระไนเพชรทรงนี้ เป็นรูปแบบการเจียระไนที่มีมาก่อนการเจียระไนทรงเอมเมอรัลด์ ซึ่งเป็นการเจียระไนที่คล้ายกันทรงเอ็มเมอรัลด์ ยกเว้นแต่ว่าจะเป็นทรงจัตุรัสเท่านั้น ไม่เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยเพชรทรง Asscher จะมียอดเพชรที่กว้าง เหลี่ยมยาวลดหลั่นกัน มีด้านเท่ากันและมีมุมตัด เป็นอีกรูปทรงหนึ่งที่มีความคลาสสิค ความสะอาด และสีของเพชร เป็นสิ่งสำคัญของเพชรทรงแอชเชอร์นี้ ซี่งการมีหน้าแบนใหญ่จะทำให้เรื่องความสะอาดของเพชรถูกสังเกตได้ง่าย ทรงแอชเชอร์คัทแบบดั้งเดิม จะมีทั้งหมด 58 เหลี่ยม โดยจะเหมือนกับเพชรทรงเอ็มเมอรัลด์แบบจัตุรัสสมัยใหม่ แต่ในแบบรอยัลแอชเชอร์ (Royal Asscher) สมัยใหม่จะมีทั้งหมด 74 เหลี่ยม โดยส่วนด้านบนของเพชรจะมีการเจียรไนเป็นขั้นเล็กๆ มากขึ้น ในขณะที่ด้านล่างของเพชร จะมีการเจียรไนเหลี่ยมให้ยาวและใหญ่ขึ้น และมีก้นเพชรที่เป็นแบบเปิด การเจียรไนแบบนี้จะช่วยทำให้เพชรมีประกายแสงมากขึ้น และจะดึงสายตาให้มองไปตรงกลางตามความลึกของเพชรด้วย ในขณะที่จุดกลางของเพชรมีประกายระยิบระยับนั้น มุมของเพชรจะเป็นตัวแสดงสีที่แท้จริงของเพชรเม็ดนั้น

เพชรทรงหัวใจ (Heart Cut)

เป็นรูปทรงที่มีค่าเจียระไนสูงกว่าเพชรในกลุ่มแฟนซีมาตรฐานทั่วไป เนื่องจากการคัดสรรให้ได้มาซึ่งเพชรทรงหัวใจที่มีสมมาตรที่ดี ต้องใช้เวลาและความอดทน เพราะการเบี้ยวของเส้นขอบเพชรเพียงเล็กน้อย จะแสดงออกให้เห็นได้ชัดบนตัวเรือนเรียบเกลี้ยงของแหวนหมั้น เพชรทรงหัวใจที่ดีควารมีสัดส่วนกว้าง : ยาวเป็น 1: 1 รูปทรงหัวใจแสดงความน่ารัก และอ่อนโยนอยู่ในตัว จึงขอแนะนำให้เลือกตัวเรือนที่เรียบ ดูสะอาดตา เพื่อแสดงความสง่าที่น่ารักของเพชรเม็ดที่คุณเลือกสรรมาอย่างดี ในปัจจุบันเพชรรูปหัวใจจะมีราคาสูงกว่าการเจียระไนแบบทรงเพชรทรงกลมแบบเหลี่ยมเกสรหากเทียบในสัดส่วนน้ำหนักที่เท่ากัน ทั้งนี้เนื่องมาจากการเจียระไนรูปทรงหัวใจมีน้ำหนักสูญเสียระหว่างการเจียระไนที่มากกว่า และเพชรรูปทรงหัวใจนั้นหาซื้อได้ยากกว่ารูปทรงกลมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพชรรูปทรงหัวใจที่มีความสมมาตรสวยงาม และเนื่องจากมีความยากในการเจียระไนรูปหัวใจ เพชรรูปหัวใจส่วนมากจึงมีขนาดใหญ่กว่า 1 กะรัต



เพชรรูปทรงพริ้นเซส (Princess Cut)

รูปแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสเป็นทรงที่ส่องประกายไฟได้ดีเกือบจะเท่ากับทรงกลม มีเหลี่ยมเพชรที่มองแล้วคม และความเรียบของเส้นขอบที่สามารถเชื่อมต่อกับตัวเรือนได้สนิท ทำให้เพชรทรงพริ้นเซสมักถูกเลือกเป็นแหวนหมั้นให้ฝ่ายชาย เพชรทรงพริ้นเซสที่ได้รับการเจียระไนที่ดี จะสามารถสะท้อนแสงได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยทั่วไปการใช้ตัวเรือนแบบหนามเตย 4 มุม จะเป็นที่นิยมสำหรับเพชรรูปทรงนี้ เพื่อช่วยป้องกันมุมของเพชรทั้ง 4 ด้าน

เพชรรูปทรงเรเดียน (Radiant Cut)

เพชรทรงเรเดียน มีลัษณะการเจียระไนคล้ายกับทรงปริ้นเซสที่ใช้เหลี่ยมในการทำให้เกิดการเล่นไฟและส่องประกายระยิบระยับแบบทรงกลม แต่จะมีเหลี่ยมมากกว่ารูปทรงปริ้นเซส องค์ประกอบที่ทำให้เพชรทรงเรเดียนแตกต่างจากเพชรทรงปริ้นเซสอีกอย่างก็คือ มุมทั้ง 4 ที่ถูกตัด ซึ่งการตัดมุมนี้ช่วยทำให้เพชรเกิดการแตกหักสูญเสียได้ยากขึ้นอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามรูปลักษณ์โดยรวมของเพชรรูปทรงเรเดียนจะมีความคล้ายกับเพชรทรงเอ็มเมอร์รัลด์ และทรงแอชเชอร์ เนื่องจากจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือผืนผ้าก็ได้ และมีมุมทั้ง 4 ที่ถูกตัด

วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

สุดยอดแหวนเพชร ของเซเลปดัง






เมื่อมองย้อนกลับไปใน อดีต รูปแบบแหวนหมั้น แม้จะแตกต่างไปบ้างตามยุคสมัย หากแต่จุดยืนยังคงเดิม เพราะงานดีไซน์แต่ละรูปแบบ แฝงไว้ซึ่งแนวคิด ลองมาดูรูปแบบแหวนหมั้นของบรรดาเซเลบชื่อดังกัน ว่าจะหรูหรา อลังการแค่ไหน

อันดับที่ 10 โทนิ แบรกซตัน
สาวฮอตอย่าง โทนิ แบรกซตัน ได้แหวนหมั้นประดับด้วยเพชร 3 เม็ด 4.5 กะรัต เม็ดกลางเป็นเพชรรูปไข่ ประดับสองข้างด้วยเพชรรูปหัวใจจาก คาร์ล เลวิส ที่มีความหมายลึกซึ้งถึงหัวใจสองดวงที่มีต่อกัน

อันดับที่ 9 เจโล หรือ เจนนิเฟอร์ โลเปซ
ถูกจับ จองจาก เบน แอฟเฟลค พระเอกหนุ่มรูปหล่อล่ำ ด้วยแหวนเพชรสีชมพูน้ำหนักถึง 6.1 กะรัต จากร้านแฮรี่ วินสตัน เธอเป็นสาวเดียวที่ได้รับแหวนเป็นสีชมพู เพราะนอกจากเพชรเม็ดกลางที่เป็นสีชมพูแล้ว เพชรบ่าทั้งสองข้าง ยังเป็นเพชรสี่เหลี่ยมเรียงอีกข้างละสามเม็ด มูลค่าถึง 3 ล้านดอลลาร์ ขณะที่คู่หมั้นอีกคนคือ มาร์ค แอนโทนี่ หมั้นหมายสาวสะโพกสุดเสียงสังข์ด้วยแหวนหมั้นเพชรเม็ดโต14.5 กะรัต มูลค่าถึง 5 ล้านดอลลาร์

อันดับที่ 8 บริทนีย์ สเปียร์
มีแหวนหมั้นสอง วง วงแรกเป็นแหวนเพชรรูปหมอนน้ำหนัก 4 กะรัต มูลค่า 4 หมื่นดอลลาร์ที่เธอซื้อให้ตัวเอง และ 9 เดือนต่อมา หลังจากที่อุ้มท้องโย้เข้าพิธีแต่งงานกับ เควิน เฟดเดอร์ไลน์ สามีของเธอซื้อแหวนให้เธอซึ่งออกแบบโดยซินเธีย วูฟฟ์

อันดับที่ 7 ปารีส ฮิลตัน
ได้รับแหวนหมั้น 2 วง จากอัครมหาเศรษฐี ปารีส แล็ททิส เป็นแหวนประดับด้วยเพชรสีเหลืองคานารี่ น้ำหนัก 24 กะรัต ที่มีมูลค่าสูงถึง 5 ล้านดอลลาร์ และอีกวงเป็นแหวนเพชรสีขาวทรงสี่เหลี่ยม น้ำหนัก 15 กะรัต ที่มีมูลค่ากว่า 2 ล้านดอลลาร์ ขนาดหมั้นกันถึง 2 วงยังเอาสาวปารีสไม่อยู่เลย ให้รู้ซะบ้างว่าเธอซ่าไม่แคร์สื่อตัวจริง

อันดับที่ 6 มาดอนน่า
นักร้องสาวใหญ่ผู้อื้อ ฉาว ได้รับแหวนหมั้นจาก กาย ริชชี่ ที่ตอนนี้เป็นอดีตสามีไปเสียแล้ว แต่ยามรักกันหวานซึ้งนั้น กาย ริชชี่ลงทุนหมั้นหมายมาดอนน่าด้วยแหวนหมั้นโบราณในยุคเอ็ดวาร์เดียน เป็นแหวนเรือนแพลตทินัมที่ประดับด้วยเพชรสามเม็ด แต่ความหมายกลับเป็น อดีต ปัจจุบัน และอนาคต

อันดับที่ 5 โจน คอลลินส์
ดารารุ่นดึกที่ยัง สวยไม่สร่าง แถมชีวิตยังแฮปปี้กับความรักอย่างหวานชื่น ป้าโจนได้รับแหวนหมั้นจาก เพอร์ซี่ กิบสัน เป็นแหวนโบราณของศตวรรษที่ 19 เป็นเพชรรูปหัวใจที่ไม่มีการยืนยันน้ำหนักที่แท้จริง


อันดับที่ 4 แคทเธอรีน ซีต้า โจนส์
แคทเธอรีน ซีต้า โจนส์ นางเอกสาวสวยที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านงานแสดงและความรัก เพราะเธอสามารถคว้าตัวพระเอกดังรูปหล่ออย่าง ไมเคิล ดักลาส ไปครองสำเร็จ พิธีวิวาห์จัดอย่างใหญ่โตหรูหรา ส่วนแหวนหมั้นจากไมเคิล ดักลาส เป็นแหวนโบราณประดับด้วยเพชรทรงมาคีส์น้ำหนักถึง 10 กะรัต มูลค่ากว่าล้านดอลลาร์


อันดับที่ 3 ชารอน สโตน
ชารอน สโตน ดาราสาวใหญ่ทรงเสน่ห์รายนี้ ได้แหวนหมั้นจาก ฟิล บรอนสไทน์ เป็นแหวนที่ประดับด้วยเพชรสี่เหลี่ยมสามเม็ดน้ำงาม ที่มีขนาดรวม 3.5 กะรัต (ความหมายของเพชร 3 เม็ดก็คือ You and I นั่นเอง)


อันดับที่ 2 พริซซิลล่า เพรสลีย์
พริซซิลล่า เพรสลีย์ ภรรยาหนึ่งเดียวของเอลวิส เพรสลีย์ ราชาเพลงร็อคผู้ล่วงลับไปแล้ว พริซซิล่าได้รับแหวนหมั้นจาก เอลวิส เพรสลีย์ เป็นเพชรน้ำงามน้ำหนัก 3.5 กะรัต แต่เรือนแหวนเป็นแพลตทินัมที่ประดับรอบวงด้วยเพชรเม็ดเล็กอีก 21 เม็ด ตอนนั้นทำเอาบรรดาสาว ๆ อิจฉาตาร้อนกันเป็นแถว

อันดับที่ 1 อลิซาเบธ เทเลอร์ หรือ "ป้าลิซ"
เริ่ม จากแหวนหมั้นของผู้ที่ ถูกกล่าวขวัญมากที่สุดรายแรกเห็นจะเป็นของใครไป ไม่ได้ นอกจากดาวค้างฟ้าผู้อื้อฉาวที่สุดของฮอลลีวูด อลิซาเบธ เทเลอร์ หรือ "ป้าลิซ" เจ้าของดวงตาสีเขียวมรตกขับกับผมสีดำสลวยทำให้ชายหลายคนต่างหลงใหลในตัวเธอ และแน่นอนว่าสาวสวยย่อมต้องคู่กับเพชรเม็ดงาม โดยเฉพาะป้าลิซซึ่งผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้งหลายครา เธอจึงมีแหวนหมั้นหลายวงหน่อย วงที่ร่ำลือกันนั้นวงแรกได้มาจากสามีอันดับ 3 ไมเคิล ทอดด์ เป็นแหวนหมั้นเพชรทรง Emerald Cut ที่มีน้ำหนักถึง 30 กะรัต นอกจากนั้นเธอยังเป็นเจ้าของเพชรชื่อ Krupp ที่มีน้ำหนักถึง 33.19 กะรัต ที่เธอสวมเป็นประจำเกือบทุกวัน ซึ่งได้รับจากริชาร์ด เบอร์ตัน รวมถึงเพชรทรงลูกแพร์ชื่อ Taylor-Burton น้ำหนัก 69.42 กะรัต และเพชรโบราณรูปหัวใจที่มีประวัติอันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ชื่อ ทัชมาฮาลอีกด้วย



ขอบคุณข้อมูลจาก : www.toptenthailand.com

สุดยอดเพชรคู่กษัตริย์




1. The Star of Africa (Cullinan 1) Diamond

เคยเป็นเพชรเจียระไนที่ใหญ่ ที่สุดในโลก (ปัจจุบัน Golden Jubilee เป็นเพชรเจียระไนที่ใหญ่ที่สุดในโลก) มีน้ำหนัก 530.20 กะรัต พบที่เหมืองพรีเมียร์ ในแอฟริกาใต้เมื่อคริสต์ศักราช 1905 ก่อนเจียระไนมีน้ำหนักถึง 3,106 กะรัต พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งอังกฤษ ได้รับมอบเพชรนี้เมื่อคริสต์ศักราช 1907 จากนั้น Joseph Asscher & Company ที่อัมสเตอร์ดัมได้เจียระไนแบ่งออกเป็นเพชรเม็ด ใหญ่ เพชรเม็ดเล็ก และเพชรขนาด 9.5 กะรัต อีกหลายเม็ด เพชรเม็ดใหญ่ที่สุดคือ Cullinan 1 ถูกเจียระไนเป็นรูปหยดน้ำ และนำไปประดับที่พระคทาของกษัตริย์อังกฤษปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พระคลังเครื่องเพชรของพระราชวงศ์อังกฤษที่หอคอยแห่งกรุงลอนดอน

2. Koh-I-Noor Diamond

เพชรโก อิ นัวร์ ซึ่งหนัก 186 กะรัต เป็นเพชรที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาเพชรที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ เรื่องราวดั้งเดิมเกี่ยวกับเพชรนี้ มาจากหลายแหล่งตามตำนานฮินดูโบราณกล่าวว่า พระกฤษณะ (Krishna) เป็นผู้สวมใส่เพชรเม็ดนี้ บ้างก็ว่าเพชรนี้ถูกพบในแม่น้ำโกทาวรี (Godavari) ในอินเดียตอนกลางเมื่อ 4,000 ปีมาแล้ว และราชากานาแห่งอังกา (Gana Rajah of Anga) เป็นผู้สวมใส่ แต่ราชาผู้น่าสงสารผู้นี้ก็ตกเป็นเหยื่อรายแรกของเพชรเม็ด นี้ซึ่งมีคำสาปที่น่าสะพรึงกลัวอยู่ ในขณะที่กำลังขี่ม้าเข้าสู่สนามรบพร้อมกับเพชรเม็ดนี้ ราชาถูกฆ่าในสนามรบ เล่ากันในภายหลังว่า "ผู้ใดครองเพชรเม็ดนี้จักได้ครองโลก หากแต่จักพบพานความโชคร้ายต่าง ๆ ของมันด้วย" จะมีก็แต่พระเจ้าหรือผู้หญิงที่สามารถสวมใส่ได้โดยที่จะไม่ถูกลงโทษอย่างไรก็ตามบันทึกอ้างอิงฉบับแรก ๆ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เพชรเม็ดนี้เริ่มต้น เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 14 ว่า พบเพชรเม็ดนี้ทางตอนใต้ ของประเทศอินเดีย บริเวณริมแม่น้ำโกทาวรี ราว ค.ศ. 1304 ชาวนาคนหนึ่งพบวัตถุเป็นมันวาวชิ้นหนึ่งในดินโคลนหลังจากคืนฝนตกเพชรเม็ดนี้ซึ่งสวยงามมากเป็นพิเศษก็ได้กลายเป็นที่รู้จักในอินเดียและถูกนำไปประดับบนมงกุฎของมหาราชาแห่งกอ ลคอนดา ภายหลังเพชรเม็ดนี้ตกเป็น สมบัติของตระกูลโมกุลผู้ยิ่งใหญ่ และมีค่าโดยประมาณเท่ากับรายได้ใน 1 วัน ของประชากรทั้งหมดบนโลกเพชรโก อิ นัวร์ ตกทอดจากทรราชคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นของโมฮัมเหม็ด ชาร์ (Mohammed Shah) และตกทอดสู่นาดีร์ ชาห์ (Nadir Shah) ซึ่งได้อุทานออกมาว่า "โก อิ นัวร์" ซึ่งหมายความว่า "ภูเขาแห่งแสงสว่าง"ระหว่างที่เขาได้เห็นเพชรอัน วิจิตรงดงามนี้ที่เขาได้แย่งชิงมาจากโมฮัมเหม็ด ชาห์ ใน ค.ศ. 1739 ท้ายสุดแล้วเพชรก็ไปตกอยู่ที่รานจีท สิงห์ (Ranjeet Singh) แห่งปัญจาบใน ค.ศ. 1833ใน ค.ศ. 1850 บริษัทอินเดียตะวันออกได้ทูลเกล้าฯ ถวายเพชรโก อิ นัวร์ ที่ลือชื่อแด่สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย เพชรเม็ดนี้เป็นของขวัญวิเศษ ชิ้นหนึ่ง ขณะนี้เพชรสามารถประเมินค่าได้เป็นราคา 700,000 ดอลลาร์สหรัฐ สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียทรงตัดสินพระทัยที่จะให้นักเจียระไนเพชรชื่อวัวร์ซานเจอร์ (Voorzanger) เจียระไนเพชรนี้ใหม่ เขาใช้เวลา 8 วันในการเจียระไนให้เป็นรูปทรงรีหรือรูปไข่ หนัก 108.93 กะรัต และมีความแวววาวเป็นพิเศษ สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียได้ทรงประดับเพชรนี้ ไว้บนเข็มกลัดและทรงระบุไว้ในพระพินัยกรรมให้เพชรโก อิ นัวร์ แก่ผู้ที่เป็นกษัตริย์และผู้หญิงเท่านั้นปัจจุบันเราสามารถชมเพชรชื่อดัง เม็ดนี้ ได้ที่ทาวเวอร์ออฟลอนดอน โดยเพชรเม็ด นี้ประดับอยู่บนมัลทีส ครอส (Maltese Cross) ด้านหน้าของมงกุฎซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1937 สำหรับพระราชมารดาสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบท

3. The Regent Diamond

จัดเป็นหนึ่งในบรรดาเพชรที่สวยที่สุดในโลก มีน้ำหนัก 140.50 กะรัต เพชรเม็ดนี้มีประวัติและตำนานพิสดารมากมายเช่นเดียวกับเพชรที่มีชื่อ เสียงทั้งหลาย โดยถูกค้นพบที่อินเดีย และได้รับการเรียกขานว่า "The Pitt Diamond" ตามชื่อผู้ว่าราชการของเมืองมัทราสในยุคนั้น คือ Thomas Pitt เขาได้นำเพชรเม็ดนี้ไปเจียระไนใหม่ที่ อังกฤษ ในคริสต์ศักราช 1717 ต่อมา Thomas Pitt ได้ขายเพชรเม็ด นี้ให้กับฟิลิปส์ ดยุค แห่งออร์ลีน และรีเจนท์แห่งฝรั่งเศส เพชรเม็ดนี้จึงได้ชื่อใหม่ว่า "The Regent" และก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในพระคลังสมบัติของฝรั่งเศสช่วงยุคแห่งการปฎิวัติ และยุคสมัยนโปเลียน "The Regent" ได้ถูกภัยคุกคามอีกหลายครั้ง จนกระทั่งถึงคริสต์ศักราช 1887 จึงได้รับยกเว้นจากการขายทอดตลาดของพระคลังสมบัติ และได้ถูกนำออกแสดงแก่สาธารณชนที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ จนกระทั่งทุกวันนี้

4. The Orloff Diamond

จัดเป็นเพชรที่มีขนาดใหญ่ และมีชื่อเสียงมากที่สุดเม็ดหนึ่งของโลก อีกทั้งยังเป็นเพชรที่มีความสำคัญมากในกองทุนเพชรของมอสโคว์ มีน้ำหนักรวม 189.62 กะรัต ปัจจุบันเพชรเม็ด นี้ประดับอยู่บนคธาของกษัตริย์รัสเซีย ซึ่งตั้งแสดงอยู่ ณ พิพิธภัณฑ์เครมลินในกรุงมอสโคว์ ลักษณะของเพชร Orloff ดูคล้ายคลึงกับคำบรรยายลักษณะของเพชร "เกรทโมกุล" จึงเป็นไปได้ว่าเพชรทั้งสองนี้อาจเป็นเพชร เม็ดเดียวกัน ซึ่งต่อมาถูกนำไปเจียระไนใหม่ ตามประวัติเพชรเม็ดนี้เคยถูกนำไปประดับที่ตาข้างหนึ่งของเทวรูปฮินดู ก่อนที่จะถูกทหารฝรั่งเศสผู้หนึ่งขโมยออกมาจากโบสถ์กลางศตวรรษที่ 18 และได้ตกมาถึงมือของพ่อค้าชาวเปอร์เซีย ซึ่งได้นำไปขายต่อในราคาที่แพงมหาศาลให้กับ Gregory Orloffอดีตชู้รักของจักรพรรดินีแคทเธอรีนแห่งรัสเซีย Orloffได้ถวายเพชรเม็ดนี้แด่จักรพรรดินีแค ทเธอรีนด้วยหวังว่าจะได้รับความรักความชอบกลับคืนมา แต่พระองค์ปฏิเสธที่จะคืนดีด้วยและไม่เคยสวมเพชรเม็ดนี้เลย อย่างไรก็ตาม พระองค์ได้นำเพชรเม็ดนี้ไปประดับที่คธา ซึ่งยังคงสภาพเดิมอยู่จนถึงทุกวันนี้

5. The Centenary Diamond

เป็นเพชรเจียระไนแบบใหม่ (Modern Cut) เม็ดใหญ่ที่สุดในโลก ขุดพบได้โดยระบบอิเล็กทรอนิกส์เอ็กซเรย์ที่เหมืองพรีเมียร์ ในแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 17 กรกฏาคม 1986 เพชรเม็ดนี้มีน้ำหนักก่อนการเจียระไน ถึง 599 กะรัตเป็นเพชรเม็ดใหญ่ที่สุดเท่า ที่เคยพบมาซึ่งมีสีขาวสมบูรณ์แบบและไร้ตำหนิภายใน เพชรเม็ดได้ชื่อว่า The Centenaryในวันเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี เดอ เบียร์ส เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 1988ในงานเลี้ยงที่จัดขึ้นใกล้เหมืองคิมเบอร์ลี่นายโชล เคาสกี้ เป็นผู้เจียระไนเพชรเม็ดนี้ และได้ทำการเจียระไนเสร็จเมื่อต้นคริสต์ศักราช 1991หลังจากเจียระไนเสร็จแล้ว เพชรเม็ด นี้มีน้ำหนัก 273.85 กะรัต และมี 247 เหลี่ยม คือ 164 เหลี่ยมบนตัวเพชรและ 83 เหลี่ยมบนเกอเดิล เท่าที่ผ่านมายังไม่เคยมีการเจียระไนเพชรที่ ได้เหลี่ยมมากมายเช่นนี้มาก่อนบนเพชรเม็ดเดียวในหมู่เพชรน้ำงามที่สุดในโลก แล้ว The Centenary จะเป็นรองจาก The First Star of Africa และ The Second Star of Africaซึ่งเจียระไนจากเพชร Cullinan เท่านั้น นับได้ว่าเพชร The Centenaryเป็นเพชรเจียระไนสมัยใหม่ เม็ดใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นเพชรเม็ดเดียวที่รวมเอาวิธีเจียระไนแบบเก่าเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ซับซ้อนเป็นตัวอย่างของ "เพชรน้ำงาม ไฟดี" ที่ปรากฎสู่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรก เมื่อเดือนพฤษภาคม คริสต์ศักราช 1991เพชรเม็ดนี้มีราคาประกัน มากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ

6. Hope Diamond

เพชร นอกจากจะสวยงาม เป็นสิ่งล้ำค่าหายากแล้ว ยังผูกพันธ์อยู่กับความเชื่อมากมาย เพชร "โฮป"เพชรสีน้ำเงินเข้มเม็ดนี้ เป็นอีกหนึ่งตำนานที่ได้รับการกล่าวขานมาเนิ่นนานว่ากันว่าเพชรโฮปมาจากดวงตาของเทวรูป ในวัดริมแม่น้ำโคเลอรูน (Coleroon) ในอินเดีย เพชรหนัก 112 กะรัต เม็ดนี้ถูกขุดพบในเหมืองคอลเลอร์ (Kollur mine) ในกอลคอนดา เป็นเพชรที่หายากและมีสีน้ำเงินเหมือนสีไพลินเข้มชอง-แบปตีส ตาแวร์นีเย (Jean-Baptist Tavernier) พ่อค้าเพชรชื่อดังชาวฝรั่งเศสซื้อเพชรนี้มาและลักลอบนำ เข้าไปยังกรุงปารีสใน ค.ศ. 1668ต่อมาใน ค.ศ. 1669 ตาแวร์นีเยขายเพชรให้ แก่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ด้วยราคา 3,000,000 ปอนด์ เพชรโฮปนี้ได้รับการเจียระไนเป็นรูปหยดน้ำรูปทรงสามเหลี่ยมหนัก 67.5 กะรัต โดยนายเปเตออง (Petean) และเป็นที่รู้จักในนาม "เพชรตา แวร์นีเยสีฟ้า" (The Tavernier Blue)เพชรสีน้ำเงินฝรั่งเศส (The French blue) หรือเพชรสีน้ำเงินแห่งมงกุฎ (The Blue Diamond of the Crown) พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงมอบเพชรให้ แก่มาดาม เดอ มงเตสปอง (Madam de Montespan) แต่ไม่นานหลังจากนั้นนางก็กลายเป็นที่เกลียดชังของราชสำนัก เพชรฝรั่งเศสสีน้ำเงินนี้ ได้หายไปในเดือนกันยายน ค.ศ. 1792หลังจากการปล้นเพชรครั้ง สำคัญในประวัติศาสตร์ที่คลังเก็บสมบัติแห่งชาติ (The National Garde Meuble) ใน ค.ศ. 1812บันทึกความทรงจำของจอห์น ฟรานซิลลอน (john Francillon) พ่อค้าเพชรชาวลอนดอนเขียนไว้ว่าเพชรสีน้ำเงินหนัก 45-52 กะรัตได้ปรากฏขึ้นใน ค.ศ. 1830 ที่อังกฤษ โดย เดเนียล แอเลียสัน (Denial Eligson)พ่อค้าเพชรชาวลอนดอน เขาเปลี่ยนรูปแบบการเจียระไนเป็นรูปหมอนและขายให้แก่เฮนรี ทอมัส โฮป (Henty Thomus Hope)นักการธนาคารชาวอังกฤษ ดังนั้นเพชรสี น้ำเงินจึงได้ชื่อใหม่ตามชื่อของเขาคือ เพชร "โฮป"ลอร์ดฟรานซิส เพลแฮม คลินตัน โฮป (Lord Francis Pelham Clinton Hope)ซึ่งได้เป็นเจ้าของเพชรของ พ่อของเขา ท้ายที่สุดแล้วกลับล้มละลายและเพชรก็ได้หายไปอีกครั้งหนึ่งต่อมาปีแยร์ การ์ตีเย (Pierre Cartier) พ่อค้าเพชรชาวปารีสได้ขายเพชรโฮปผ่านทางสุลต่าน อับดุล-ฮามิด (Abdul - Hamid) ให้กับวิลเลียม แมกลีน (William Mclean)คนสำคัญในวงการหนังสือพิมพ์ และเพชรเม็ด นี้ก็ถูกนำไปที่สหรัฐอเมริกา แมกลีน ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ซื้อเพชรมาด้วยราคา 154,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภรรยาของแมกลีนต้องการให้พระทำพิธีขับไล่ผีในเพชรก่อนพิธีนี้จึงได้มีขึ้นและเธอก็ป่าวประกาศว่ามี "ฟ้าผ่าและฟ้าแลบในระหว่างพิธี" ด้วยหลังจากนั้นเธอจึงค่อยสวมใส่เพชรเม็ด นี้โชคร้ายที่ดูเหมือนคำสาปในเพชรยังคงมีอยู่ ใน ค.ศ. 1918ลูกชายของแมกลีนอายุ 9 ขวบ หลุดรอดจากการดูแลของบรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและถูกรถคันหนึ่ง ชนเสียชีวิตแมกลีนจึงดื่มเหล้าและหลังจากนั้นไม่กี่เดือนลูกสาวคนเดียวของพวกเขาก็ปลิด ชีพตัวเองโดยใช้ยานอนหลับใน ค.ศ. 1949หลังจากที่ภรรยาของแมกลีนเสียชีวิตแล้ว แฮร์รี วินสตัน (Harry Winston)พ่อค้าเพชรชาวนิวยอร์ก ได้ซื้อเพชรโฮปไปด้วยราคา 180,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำไปเพิ่มชุดสะสมส่วนตัวของเขาใน ค.ศ. 1958 เอดนา วินสตัน (Edna Winston) ได้บริจาคเพชรเม็ดนี้ให้แก่สถาบันสมิทโซเนียนในกรุงวอชิงตัน ซึ่งเป็นที่ที่จัดแสดงเพชรใน ปัจจุบัน และมีผู้มาเยี่ยมชมหลายพันซึ่งหลงไหลในเพชรสีน้ำเงินไพลินและความ แวววาวที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่มีตำนานที่น่าสนใจ

7. Golden Jubilee Diamond

มาถึงอันดับสุดท้ายที่ถือว่าเป็นที่สุด ของที่สุดเพราะ เป็นเพชรเจียระไนเม็ดใหญ่ที่ สุดในโลก เดิมเป็นที่รู้จักกันในนาม "Unnamed Brown"ต่อมาได้ชื่อใหม่ว่า "Golden Jubilee (เพชรกาญจนาภิเษก)"ทั้งนี้ เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เมื่อพุทธศักราช 2539 เพชรเม็ดนี้ได้ถูกนำมาแสดงในงาน บี.โอ.ไอ. แฟร์ที่แหลมฉบัง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว Golden Jubilee มีน้ำหนัก 545 กะรัต
เพชรเม็ดนี้ได้รับการระบุ ลักษณะว่าเป็นเพชรสีแฟนซี สีน้ำตาลเหลืองตามธรรมชาติโดยห้องวิเคราะห์ปฏิบัติการของ GIAผลึกเพชรก่อนการเจียระไนมี น้ำหนัก 755.50 กะรัต ขุดพบที่เหมืองพรีเมียร์ ในแอฟริกาใต้ เมื่อคริสต์ศักราช 1986 การเจียระไนเพชรเม็ดนี้ใช้ เวลาประมาณ 3 ปี โดยช่างเจียระไนเพชรที่มีชื่อเสียงชื่อ นายโชล เคาสกี้ หลังการเจียระไนแล้วเพชรเม็ดนี้มีจำนวนเหลี่ยม ทั้งหมด 158 เหลี่ยม แบ่งด้านบนคราวน์ 55 เหลี่ยม ด้านล่างพาวิลเลียน 69 เหลี่ยมและของเกอเดิลอีก 24 เหลี่ยม นายโชล เคาสกี้ เรียกรูปร่างของเพชรเม็ดนี้ว่า "Fire-Rose Cusion-Shape" นับเป็นเพชรเจียระไนเม็ดใหญ่ ที่สุดในโลกที่มีการเจียระไนโดยเสียนเนื้อเพชรน้อยมากคือ เสียไปไม่ถึง 28 เปอร์เซนของน้ำหนักก้อนเดิม

ขอขอบคุณเรื่องดีๆจาก fwdder